สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ว่านายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) แถลงว่ายูเอ็นจะสอบสวนเหตุการณ์สู้รบรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในซูดานใต้ ว่าอาจเข้าข่าย “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” พร้อมกับเผยถึงการยื่นญัตติเร่งด่วนต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสห ประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เพื่อขอให้มีการเพิ่มกำลังทหารรักษาสันติภาพในซูดานใต้อีกอย่างน้อย 5,500 นาย และตำรวจพิเศษอีกกว่า 400 นาย
ทั้งนี้ ที่ประชุมสมาชิกยูเอ็นเอสซีทั้ง 15 ประเทศ มีกำหนดลงมติในเรื่องดังกล่าววันนี้ ในเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. ตามเวลาในประเทศไทย ) ซึ่งคาดว่าจะผ่านการอนุมัติ และจะทำให้กำลังทหารรักษาสันติภาพในซูดานใต้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 7,000 นาย ขณะที่จำนวนตำรวจพิเศษจะเพิ่มเป็นราว 700 นาย
ขณะที่ประธานาธิบดีซัลวา คิอี ผู้นำซูดานใต้ แถลงพร้อมเจรจากับนายริค มาชาร์ อดีตรองประธานาธิบดีซึ่งถูกขับออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนก.ค. เพื่อยุติเหตุรุนแรงครั้งนี้โดยเร็ว อย่างไรก็ตาม คิอียืนกรานว่า การเจรจาต้องไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ข้อแลกเปลี่ยน” หลังมาชาร์ยื่นข้อเสนอขอให้มีการปล่อยตัวสมาชิกฝ่ายต่อต้าน 10 คนที่ถูกรัฐบาลจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานอาจพัวพันความพยายามของมาชาร์ในการก่อรัฐประหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตรัฐมนตรี
ซูดานใต้เป็นประเทศลำดับที่ 193 และถือเป็นประเทศเอกราชอายุน้อยที่สุดของโลกในปัจจุบัน ได้รับการรับรองเอกราชอย่างเป็นทางการจากยูเอ็น เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2554 หลังทำสงครามกลางเมืองยืดเยื้อนานหลายทศวรรษกับซูดาน เพื่อขอแยกดินแดน